โรคเชื้อราในแมว

โรคเชื้อราในแมว

 

เหล่าทาสแมวหลาย ๆ คนคงเคยประสบปัญหาว่าแมวเป็นเชื้อรา โดยเชื้อรายอดฮิตที่พบ คือ เชื้อราบนผิวหนังหรือที่หลาย ๆ คนรู้จักในชื่อขี้กลากแมวหรือเกลื้อนแมว แต่จริง ๆ แล้วเชื้อราในแมวมีหลากหลายมากกว่าที่ท่านอาจเคยรู้จัก วันนี้เราจะมาพูดถึง เชื้อราแบบโดยรวม สามารถติดตามได้ในบาทความนี้เลยครับ

 

สาเหตุการติดเชื้อราในแมว

 

การติดเชื้อราในแมวส่วนมากมาจากสิ่งแวดล้อมที่แมวได้ไปคลุกคลีอยู่และแมวสามารถติดโรคได้จากหลายทาง อย่างเช่น การสัมผัสสัตว์ป่วยที่ติดเชื้อรา โดยเฉพาะแมวที่มีโรคทำใ้ห้ภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือการใช้ยาปฏิชีวนะในระยะเวลายาวนานจะติดเชื้อราได้ง่ายมากยิ่งขึ้นหรืออาจเกิดจากการที่แมวมีแผลที่ผิวหนังและไปสัมผัสโดนเชื้อรา หรืออาจเกิดจากการหายใจเอาเชื้อราเข้าไปหรือเกิดจากแมวอีกตัวไปสัมผัสกับอุจจาระของแมวที่มีเชื้อรา เป็นต้น 

บางท่านอาจสงสัยว่าทาสแมวอย่างเราก็เลี้ยงเหล่าเจ้านายไว้แค่ในบ้านจะไปติดมาจากที่ไหนนะ พาไปข้างนอกก็แค่ตอนอาบน้ำ ตัดขน แต่จริง ๆ แล้วการที่แมวของเราไปใช้ของร่วมกับสัตว์ตัวอื่น ๆ ก็มีโอกาสที่จะติดได้ เช่นกัน เนื่องจากร้านอาบน้ำตัดขน ก็ใช้ผ้าเช็ดตัวและหวีเป็นของส่วนกลาง

ชนิดของเชื้อราที่พบ

 

มีเชื้อราหลายชนิดในสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อสุขภาพแมว เชื้อบางชนิดจะทำให้พบโรคได้ปกติบ่อยกว่า เชื้อราชนิดอื่น ๆ คือกลุ่ม Dermatophyte โดยเฉพาะกลุ่มของ Mycosporum canis ที่ทำให้เกิดรอยโรคที่ผิวหนังที่เรียกว่า Ringworm ซึ่งเป็นที่รู้จักส่วนมากในเหล่าทาสแมว ซึ่งยังไม่เชื้อราในกลุ่มยีสต์ (Yeast)ที่ทำให้เกิดรอยโรคที่ผิวหนังเช่นกัน

แต่จริงๆแล้วมีเชื้อราอีกหลายชนิดที่สามารถพบได้แต่ไม่บ่อยนักซึ่งมีบางชนิดสามารถติดเชื้อแบบกระจายทั่วร่างกายได้ (Systemic infection) ตัวอย่างเช่น โรคคริปโตคอกโคสิส (Cryptococcosis) หรือ โรคฮิสโตพลาสโมซิสหรือโรคดาร์ลิง (Histoplasmosis)

 

อาการของแมวที่ติดเชื้อรา

 

อาการที่พบจะขึ้นกับชนิดของเชื้อราที่ติด โดยอาการที่สามารถพบได้

 

1. เชื้อราที่พบที่ผิวหนัง

จะพบว่าเกิดแผลที่ผิวหนัง ผิวหนังแห้ง แดง เป็นขุย ขนร่วงเป็นหย่อม โดยลักษณะพิเศษที่สังเกตุได้ชัดคือผิวหนังจะมีลักษณะวงกลมสีแดง ขอบจะนูนหนาและขยายวงขึ้นในการติด Dermatophyte ถ้าหากเป็นการติดเชื้อยีสย์จะพบว่าผิวหนังแดงเยิ้มและมีกลิ่น

 

     

2. เชื้อราที่ติดแบบกระจายทั่วร่างกาย

น้ำหนักลด มีไข้ เบื่ออาหาร หายใจลำบาก มีปัญหาที่ตา ติดเชื้อราในปอด ติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ เกิดซีสต์ใต้ผิวหนัง เลือดออกจากจมูก จาม จมูกบวม ชัก เดินวน ตาบอด อัมพาต โลหิตจาง ท้องเสีย ซึม หรือ ไอ

วิธีรักษาเชื้อราแมว

การรักษาโรคเชื้อราแมวขึ้นกับว่าติดเชื้อราชนิดไหน ในการรักษาอาการติดเชื้อราที่ผิวหนังส่วนใหญ่ จะใช้เป็นยาทาภายนอกหรือใช้แชมพูฆ่าเชื้อและให้ยากิน 

หากแมวมีแผลหรือมีรอยโรคในจมูก สัตวแพทย์จะทำการขูดออก อาจมีบางรายติดเชื้อมากกว่าที่ผิวหนัง อาจพิจารณาให้ยาทางเส้นเลือดหากจำเป็น ซึ่งต้องใช้เวลารักษานานหลายสัปดาห์

สัตวแพทย์อาจแนะนำให้คุณฝากแมวป่วยไว้ที่คลินิก เพื่อป้องกันไม่ให้มีการติดโรคไปยังเจ้าของ แต่หากต้องการนำกลับมาดูแลที่บ้าน จะแนะนำให้ใส่ถุงมือ สวมหน้ากากทุกครั้งที่จับแมวหรือเปลี่ยนทรายในกระบะ

 

เชื้อราแมวรักษานานไหม

โดยปกติหากเป็นการรักษาเชื้อราที่ติดตามผิวหนังจะใช้เวลาในการรักษาประมาณ 2-4  สัปดาห์ ถ้าหากมีการเชื้อราที่ทำให้เกิดการกระจายทั่วร่างกายระยะเวลาการรักษาขึ้นอยู่กับอาการของแมวที่ดีขึ้น ถ้าหากมีอาการของแมวมีความรุนแรงมากขึ้นและมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิต อาจมีผลต่อคุณภาพชีวิตของแมว อาจมีการแนะนำให้ทำการุณยฆาต

โรคเชื้อราสามารถติดต่อสู่คนได้ไหม?

เชื้อราในแมวสามารถติดต่อสู่คนได้ โดยเชื้อราที่ติดต่อคนที่พบได้มากคือเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคที่ผิวหนัง (Mycosporum canis) (ทำลิงค์ให้กดเข้าไปอ่านบทความที่ตองเขียนเกี่ยวกับ Ringworm)ในแมว ซึ่งจะทำให้อาการที่เกิดในคนจะคล้ายกับในแมว คือ มีผื่นแดงขึ้นตามที่ร่างกาย มีขุยตามบริเวณรอบ ๆ ผื่นแดง

ทาสแมวคงเข้าใจเกี่ยวกัยโรคเชื้อรามากยิ่งขึ้น โดยเชื้อราที่พบบ่อยมาก คือ เชื้อราที่ก่อให้เกิดรอยโรคที่ผิวหนัง ซึ่งเป็นโรคที่สามารถติดต่อสู่คนได้โดยการสัมผัส แต่ก็ยังมีโรคเชื้อราอื่น ๆ ที่ก่อโรคในแมวได้นอกเหนือจากโรคที่ทำให้เกิดกลากแมวหรือเกลื้อนแมวซึ่งหากติดในแมวแล้วทำให้เกิดการติดเชื้อแบบกระจายทั่วร่างกายได้